‘สุพัฒนพงษ์’ย้ำกฎหมายให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2542 ล่าสุดหวังนำร่องให้คน 4 กลุ่มเข้ามาพำนักในไทย

เรื่องที่น่าสนใจ

วันที่ 3 พ.ย.2565 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศไทยเป็นกฎหมายขายชาติ ว่าเรื่องนี้ดำเนินการไม่ต่างไปจากหลักเกณฑ์เดิม เพียงเปลี่ยนระยะเวลา เพราะอยากได้คนที่ได้สิทธิเข้ามาพำนักในประเทศมี 4 กลุ่ม ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของหลักเกณฑ์ที่ทดลองนำร่องไปก่อน ซึ่งดูแล้วว่าไม่มีอะไร เพราะประเทศอื่นเขาก็ซื้อและครอบครองกันได้ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในยุโรป

ซึ่ง นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจ เป็นการนำร่องเอาไว้หากมีผู้สนใจแล้วเราได้กรองตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้แล้วประสบความสำเร็จก็เดินหน้ากันไป แต่ถ้าหากไม่ประสบความสำเร็จก็มาดูว่าเหตุผลคืออะไร จะต้องปรับปรุงหรือไม่ หรือถ้ามันไม่ดีก็สามารถที่จะยุติ หรือทำให้มันเข้มขึ้นมาได้ เรื่องนี้ไม่ต้องทำไปถึงระดับพระราชบัญญัติ เป็นเรื่องของกฎเกณฑ์สามารถแก้ไขได้ตลอดเวลา พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่ทบทวน”

เมื่อถามว่า ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นกฎหมายขายชาติจริงหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า มันไม่น่าจะเป็นการขายชาติ เพราะถ้าขายชาติก็มาตั้งแต่ปี 2542 แล้ว ตั้งแต่การออกพระราชบัญญัติฉบับนี้ ที่ผ่านมาสื่อก็ไม่ทราบ และปี 2545 ก็มีการประกาศออกกฎเกณฑ์ ซึ่งค่อนข้างจะเปิดกว้างมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป ใครก็ได้ ต่างด้าวประเภทไหนก็ได้และมีระยะเวลาเพียงแค่สั้นๆ และมีการลงทุนกว้างๆ ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่เราจะเอาหลักเกณฑ์หลักนี้ประกบคู่กับบุคลากรที่มีคุณภาพ ที่สนใจและอยากมาพำนักอยู่ในประเทศไทยและครอบครองที่ดินได้ ถือเป็นแรงดึงดูดประการหนึ่ง ซึ่งประเทศอื่นเขาก็ทำกัน และเราก็เป็นประเทศส่วนน้อยเสียด้วยซ้ำไป และของเราก็เข้มงวดกว่าประเทศดังกล่าวที่กล่าวมาในข้างต้นด้วย