คาดปี 65 ซื้อขาย-เช่าอสังหาฯ เอเชียแปซิฟิกคึกคัก “เจแอลแอล” ชี้แนวโน้มลงทุนขยายตัว 15% จากปี 64

ข่าวด่วนวันนี้ (ข่าวทั่วไทย)

เจแอลแอล ประเมินตลาดอสังหาฯ เชิงพาณิชย์ของเอเชียแปซิฟิกปี 65 เริ่มมีเสถียรภาพ หนุนการลงทุนซื้อขายและการเช่าอสังหาฯ ขยายตัว คาดในปี 65 การซื้อขายอาคารโครงการอสังหาฯ เชิงธุรกิจทั่วภูมิภาคมูลค่ารวมสูงกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% จากปี 64 โดยคาดว่ามูลค่าการซื้อขายรวมจะอยู่ที่ 1.62-1.69 แสนล้านดอลลาร์

รายงานข่าวแจ้งว่า เจแอลแอลวิเคราะห์ว่า ตลาดอสังหาฯ ในปีหน้าจะมีหลายปัจจัยที่จะกระตุ้นตลาดการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ตลาดอาคารสำนักงานมีแนวโน้มคึกคักมากขึ้นในแง่ของปริมาณการเช่า ตลาดอสังหาฯ ให้เช่าในกลุ่มโลจิสติกส์ ได้แก่ โกดังและศูนย์จัดเก็บ-กระจายสินค้าที่มีรูปแบบทันสมัย จะยังคงมีความต้องการสูง ส่วนอสังหาฯ นอกกลุ่มหลัก เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ จะยังคงมีดีมานด์ขยายตัว

นายแอนโทนี เคาส์ ซีอีโอภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกเจแอลแอล กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาฯ จะขยายตัวได้มากขึ้นในปี 65เมื่อเทียบกับปี 64 เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความมั่นใจและตลาดการเช่าปรับตัวดีขึ้นแม้การทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะยังไม่แน่นอน แต่ลูกค้าของเราที่เป็นบริษัทผู้เช่าใช้พื้นที่สำนักงานต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า มั่นใจว่าจะยังต้องการใช้ออฟฟิศเป็นที่ทำงาน ในขณะที่นักลงทุนมีทัศนคติเชิงบวกแม้ความไม่แน่นอนจะดำเนินต่อไป และยังคงเป็นตัวแปรหนึ่งในการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการลงทุน

ทั้งนี้ คาดว่าในปีหน้าจะยังมีกลุ่มทุนที่รอเข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนเพิ่มขึ้นด้วยการหาโอกาสซื้อสินทรัพย์ที่ดีในราคาไม่แพง และมีโอกาสทำกำไรในตลาดหลัก ได้แก่ จีนและญี่ปุ่น ในส่วนของตลาดให้เช่าเอเชียแปซิฟิกจะมีอาคารสร้างเสร็จใหม่รวมอีก 6.9 ล้านตารางเมตรในปีหน้าเพิ่มขึ้น 13% จากปีนี้ ในขณะเดียวกัน เจแอลแอลคาดว่าความต้องการเช่าใช้พื้นที่สำนักงานในปีหน้าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 20%โดยหลักๆ เป็นผลมากจากการเติบโตของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเทคโนโลยีและผู้ประกอบการในธุรกิจเฟล็กสเปซ (เซอร์วิสออฟฟิศและโคเวิร์กกิ้งสเปซ)

สำหรับตลาดอสังหาฯ กลุ่มโลจิสติกส์ ข้อมูลจากเจแอลแอลเผยให้เห็นว่า ซัปพลายของโกดังและศูนย์จัดเก็บ-กระจายสินค้ารูปแบบทันสมัยในเอเชียแปซิฟิกระหว่างปีนี้และปีหน้าจะมีการขยายปริมาณเพิ่มขึ้น 17% ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่ โดยจะมีซัปพลายสร้างเสร็จใหม่เข้ามาตลาดรวมทั้งสิ้น 20.8 ล้านตารางเมตร ซึ่งจากการมีซัปพลายใหม่เพิ่มขึ้นนี้ประกอบกับการมีนักลงทุนกระจายการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มนี้

ทั้งนี้ เจแอลแอลคาดว่าการลงทุนซื้อขยายอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มโลจิสติกส์ของภูมิภาคนี้จะมีมูลค่าขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 68 โรงแรมเป็นอีกกกลุ่มที่คาดว่าจะมีการลงทุนซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น โดยในปีหน้าอาจมีมูลค่าการซื้อขายรวมราว 9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นราว 30% จากปีนี้เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในตลาดโรงแรมมากขึ้น

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket